การชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร
คำจำกัดความที่สำคัญในการชดเชยค่าภาษีอากร
คำว่า
"สินค้า" หมายความว่า สินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร
คำว่า
"ผลิต" หมายความว่า ประกอบ แปรรูป แปรสภาพ
หรือทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้มีขึ้น ซึ่งสินค้าไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ
คำว่า
"การส่งสินค้าออก" หมายความว่า
(1)
การส่งของออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
(2)
การขายสินค้าให้แก่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ตามที่คณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักรกำหนด
(3)
การขายสินค้าที่จำแนกประเภทไว้ในภาคที่ว่าด้วยของที่ได้รับยกเว้นอากรตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร
ให้แก่องค์การระหว่างประเทศหรือหน่วยงานใดที่มีสิทธินำสินค้านั้นเข้ามาในราชอาณาจักรได้
ตามที่คณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักรกำหนด
คำว่า
"เงินชดเชย" หมายความว่า
เงินที่จะจ่ายชดเชยค่าภาษีอากรซึ่งมีอยู่ในต้นทุนการผลิตสินค้าส่งออกให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยในรูปของบัตรภาษีตามพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร
พ.ศ. 2524
คำว่า
“บัตรภาษี” หมายความว่า บัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์
คำว่า
“บัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า
บัตรภาษีที่มีรูปแบบตามที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดแบบ ลักษณะ ราคา
และรายละเอียดของบัตรภาษี พ.ศ. 2564
คำว่า
"อัตราเงินชดเชยค่าภาษีอากร" หมายความว่า
อัตราเงินชดเชยสำหรับชนิดและประเภทสินค้าที่จะได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากรตามที่คณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักรประกาศในราชกิจจานุเบกษา
คำว่า
“ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชย” หมายความว่า ผู้ทำการส่งสินค้าออกตามพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร
พ.ศ. 2524
ขั้นตอนการขอชดเชยค่าภาษีอากร
ผู้ประสงค์จะขอใช้สิทธิในการขอรับเงินชดเชยให้ปฏิบัติ
ดังนี้
1.
ลงทะเบียนเป็นผู้ปฏิบัติพิธีการศุลกากร หรือดำเนินการในกระบวนทางศุลกากรตามประกาศ
คำสั่ง หรือระเบียบที่กรมศุลกากรกำหนด ณ ส่วนทะเบียนสิทธิพิเศษ
กองมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร หรือฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักงานศุลกากร
หรือด่านศุลกากร
2. ลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชย
ตามคำร้องขอเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร แนบท้ายประกาศนี้ ณ
ส่วนชดเชยค่าภาษีอากร กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ในกรณีที่ประสงค์จะโอนสิทธิในบัตรภาษี
ให้ผู้รับโอนลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยด้วย หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
โดยการลงทะเบียนให้ดำเนินการ ตามเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
ผู้ส่งออก/ผู้รับโอนสามารถขอรับเอกสารแจ้ง เลขทะเบียนผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร
(14 หลัก) ได้ ณ ส่วนชดเชยค่าภาษีอากร กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
เพื่อใช้เป็นเลขทะเบียนอ้างอิงในการรับเงินชดเชยและใช้เงินชดเชย ในการชำระค่าภาษีอากร
3. ให้ผู้ส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรที่ใช้สิทธิขอรับเงินชดเชยจัดทำข้อมูล
ใบขนสินค้าขาออกตามมาตรฐานที่กรมศุลกากรกำหนด แล้วส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ระบบ
คอมพิวเตอร์ของศุลกากร โดยในส่วนรายละเอียดของใบขนสินค้าขาออกแต่ละรายการ (Export
Declaration Detail (Detail)) ในช่องการใช้สิทธิชดเชย
(Compensation ) ต้องมีค่าเท่ากับ Y ช่อง
Privilege Code ต้องเป็น 003 และให้ระบุเลขทะเบียนผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชย
(14 หลัก) ด้วย
4. ในกรณีสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักรนำเข้าไปในเขตปลอดอากรหรือ
เขตประกอบการเสรี
เพื่อการจัดการในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ หรือรูปของสินค้า
และประสงค์จะใช้สิทธิขอรับเงินชดเชย ให้ผู้ส่งออกปฏิบัติพิธีการศุลกากร ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการปฏิบัติพิธีการนำของเข้าหรื อปล่อยของออก การเก็บของ การขนถ่ายของ
การตรวจตราและการควบคุมในเขตปลอดอากร หรือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และพิธีการสำหรับเขตประกอบการเสรีตามกฎหมายว่าด้วยนิคมอุตสาหกรรม
ตามแต่กรณี และจัดทำข้อมูลใบขนสินค้าขาออกตามมาตรฐานที่กรมศุลกากรกำหนด
โดยต้องระบุเลขที่และวันที่ ของเอกสารแสดงรายละเอียดสินค้าที่ส่งออกลงในส่วน Export
Declaration Detail ในช่อง Remark ของรายการสินค้าแต่ละรายการ
การยื่นขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร
ให้ผู้ที่ประสงค์ยื่นขอรับเงินชดเชยยื่นเอกสาร
ดังนี้
1. คำร้องขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับสินค้าส่งออก
ตามแบบ กศก. 20/1
แนบท้ายประกาศนี้ ณ ส่วนชดเชยค่าภาษีอากร
กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายในหนึ่งปีนับแต่ วันส่งออกพร้อมเอกสารประกอบที่ลงลายมือชื่อรับรองโดยผู้มีอำนาจกระทำการพร้อมประทับตรา
(ถ้ามี) ดังนี้
1.1 แบบแสดงรายละเอียดของสินค้าที่ได้ส่งออกและขอรับเงินชดเชย
ค่าภาษีอากร ตามแบบ กศก. ๒๐/๑ ก แนบท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้
แบบแสดงรายละเอียดของสินค้า แต่ละชุดคำร้องขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ให้มีจำนวนใบขนสินค้าขาออกไม่เกินสิบฉบับ
ซึ่งเมื่อรวมรายการในใบขนสินค้าขาออกแต่ละฉบับเข้าด้วยกันแล้ว ต้องมีจำนวนไม่เกินหนึ่งร้อยรายการ
ยกเว้นกรณีใบขนสินค้าขาออกฉบับใด มีมากกว่าหนึ่งร้อยรายการ
ให้ยื่นขอรับเงินชดเชยเป็นหนึ่งชุดคำร้องขอ โดยให้แยกชุดคำร้องขอสำหรับใบขนสินค้าขาออกที่มีการส่งออกทางอากาศยานต่างหากจากชุดคำร้องขอที่ส่งออกทางอื่น
1.2 สำเนาบัญชีราคาสินค้า (Invoice)
1.3 หลักฐานแสดงการรับชำระเงินค่าขายสินค้าส่งออก
1.3.1 กรณีชำระเงินผ่านธนาคาร
ให้ยื่น Credit Note หรือ Credit Advice หรือหลักฐานการรับชำระเงินอื่น ๆ ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ทำหน้าที่เหมือนธนาคารพาณิชย์และเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อ
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวจะต้องมีชื่อผู้รับเงิน (ผู้ส่งออก) ชื่อผู้ซื้อ
เลขที่บัญชีราคาสินค้า (Invoice ) และจำนวนเงินตราสกุลเงินต่างประเทศ
หรือเงินตราสกุลเงินบาท หากจำนวนเงินในเอกสารดังกล่าว ชำระค่าสินค้าตามบัญชีราคาสินค้าหลายฉบับ
ให้ระบุจำนวนเงินที่ชำระแต่ละบัญชีราคาสินค้าให้ชัดเจน โดยเอกสารดังกล่าวให้ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ
ชื่อ - สกุล ตำแหน่ง พร้อมประทับตรา (ถ้ามี)
1.3.2
กรณีที่มีการชำระเงินค่าขายสินค้าที่ส่งออกเป็นเงินสด ด้วยเงินตราไทยและ/หรือเงินตราต่างประเทศ
ให้แนบหลักฐานแบบสำแดงเงินตราต่างประเทศ ที่ออกตามประกาศกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน แจ้งการนำเงินตราไทย และ/หรือเงินตราต่างประเทศเข้ามา
พร้อมเอกสารนำเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารของผู้ส่งออกโดยระบุเลขที่บัญชีราคาสินค้า (Invoice)
1.3.3 กรณีการรับชำระค่าสินค้าส่งออกโดยวิธีอื่น
ให้ยื่นเอกสาร การรับชำระเงินพร้อมหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นการรับชำระเงินค่าสินค้าส่งออกตามบัญชีราคาสินค้าที่ยื่นคำร้องขอรับเงินชดเชยนั้น
1.4 กรณีการส่งสินค้าออกทางอากาศยาน
ให้ผู้ส่งออกแนบสำเนา ใบตราส่งสินค้าทางอากาศยาน (Air Waybill) ที่ระบุเลขที่บัญชีราคาสินค้า (Invoice) และเงื่อนไขการชำระค่าขนส่งสินค้า
โดยมีผู้มีอำนาจกระทำการของบริษัทสายการบินลงลายมือชื่อรับรองและประทับตรา (ถ้ามี)
กรณีที่ไม่มีการสำแดงค่าขนส่งสินค้าในใบตราส่งสินค้าทางอากาศยาน (Air
Waybill) ให้แนบเอกสารการชำระค่าขนส่งสินค้าที่ระบุเลขที่บัญชีราคาสินค้า
(Invoice)
1.5 เอกสารหลักฐานอื่น ๆ
เพื่อประกอบการพิจารณาตามความจำเป็น
การคำนวณเงินชดเชย
1. กรมศุลกากรจะใช้ราคา FOB สำหรับการส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร เปรียบเทียบราคา FOB กับมูลค่าการชำระค่าสินค้าที่เป็น FOB จากหลักฐานแสดงการได้รับชำระเงิน
ค่าสินค้า จำนวนเงินใดต่ำกว่าให้ใช้จำนวนเงินนั้นเป็นฐานการคำนวณเงินชดเชย
2.
เมื่อชุดคำร้องขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรพร้อมเอกสารประกอบได้ผ่าน การตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนและการคำนวณเงินชดเชยแล้ว
ให้ผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินชดเชย รับต้นฉบับ ใบรับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร ณ
ส่วนชดเชยค่าภาษีอากร กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
เพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิงและตรวจสอบเงินชดเชยที่ได้รับ เมื่อถึงกำหนดวันรับบัตรภาษีตามที่ระบุไว้
กรณีเอกสารประกอบชุดคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
ให้ผู้ขอรับเงินชดเชยแก้ไขความบกพร่องหรือยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามรายละเอียดที่ได้รับแจ้งภายในระยะเวลาสิบห้าวันทำการนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
หากผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินชดเชยไม่ดำเนินการภายในกำหนด กรมศุลกากรจะคืนชุดคำร้องขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรให้แก่ผู้ขอรับเงินชดเชย
เว้นแต่กรณีเอกสารไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนและการส่งออกนั้นครบกำหนดหนึ่งปี
เจ้าหน้าที่จะออกใบรับคำขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร และให้ผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินชดเชยแก้ไขความบกพร่อง
หรือยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามรายละเอียดที่ได้รับแจ้ง ภายในระยะเวลาสิบห้าวันทำการนับแต่วันที่ออกใบรับคำร้องขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรนั้น
หากผู้ยื่นคำขอรับเงินชดเชยไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลาดังกล่าว จะถือว่าผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินชดเชยไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามนัยมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร
พ.ศ. 2524 และกรมศุลกากรมีอำนาจยกคำร้องขอรับเงินชดเชย ค่าภาษีอากรนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนและให้ถือว่าสิทธิในการขอรับเงินชดเชยนั้น
สิ้นไปทั้งหมดหรือบางส่วนแล้วแต่กรณี
การจ่ายเงินชดเชย
เมื่อชุดคำร้องขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรได้รับการอนุมัติแล้ว
กรมศุลกากรจะจ่ายเงินชดเชยในรูปแบบบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์
โดยการตั้งวงเงินชดเชยตามจำนวนที่ได้รับการอนุมัติ ตามเลขทะเบียนผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าภาษีอากร
(14
หลัก) ที่ได้จากการลงทะเบียน แยกเป็นรายชุดคำขอ โดยผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินชดเชยสามารถตรวจสอบรายละเอียดและวงเงินชดเชยคงเหลือ
ได้ในระบบการติดตามสถานะการผ่านพิธีการศุลกากรทางอินเตอร์เน็ต ( e -
Tracking )
การโอนสิทธิในบัตรภาษี
ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยที่ประสงค์จะโอนสิทธิในบัตรภาษีไปให้แก่บุคคลอื่น
ยื่นขออนุมัติจากอธิบดีกรมศุลกากร ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ดังนี้
1. กรณีก่อนออกบัตรภาษี
1.1 แสดงความจำนงในคำร้องขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับ
สินค้าส่งออก (แบบ กศก. ๒๐/๑)
โดยระบุชื่อผู้รับโอนลงในช่องว่างของบรรทัดที่มีข้อความ
“ประสงค์จะโอนบัตรภาษีให้.................................”
หากไม่ประสงค์จะโอนให้ระบุข้อความว่า “ไม่โอน” ยื่นต่อส่วนชดเชยค่าภาษีอากร กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
หรือยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลง การโอนสิทธิในบัตรภาษีก่อนออกบัตรภาษี
1.2 แนบคำร้องขอรับโอนสิทธิในบัตรภาษีตามแบบ
กศก. ๒๒/๑ ที่ลงนามโดยผู้มีอำนาจกระทำการตามหนังสือจดทะเบียนบริษัท ซึ่งออกโดย กระทรวงพาณิชย์และประทับตรา
(ถ้ามี) ของผู้รับโอนและผู้โอน โดยระบุจำนวนเงินให้ตรงกับหรือไม่น้อยกว่ายอดเงินที่ขอชดเชย
2. กรณีหลังออกบัตรภาษี
จะโอนสิทธิในบัตรภาษีแก่กันมิได้ เว้นแต่ ได้รับอนุมัติจากอธิบดี
ในกรณีดังต่อไปนี้
2.1 การโอนให้ทายาทผู้รับโอนกิจการของผู้มีชื่อในบัตรภาษี
ซึ่งถึงแก่ความตาย
2.2 การโอนให้ผู้ซึ่งรับโอนกิจการของผู้มีชื่อในบัตรภาษีมาดำเนินการต่อไป
2.3 การโอนให้แก่บริษัท
หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใหม่อันเกิดจากการควบเข้ากันระหว่างนิติบุคคลผู้มีชื่อในบัตรภาษีและนิติบุคคลอื่น
2.4 การโอนให้แก่บุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการของผู้มีชื่อในบัตรภาษี
ในกรณีนี้อธิบดีกรมศุลกากรจะอนุมัติได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร
การโอนตามข้อ 2.1 ผู้รับโอนต้องยื่นคำร้องขอรับโอนสิทธิ
พร้อมเอกสารที่แสดง ความเป็นทายาทผู้รับโอนกิจการของผู้มีชื่อในบัตรภาษีซึ่งถึงแก่ความตาย
ณ ส่วนชดเชยค่าภาษีอากร กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
ภายในอายุของบัตรที่กำหนดไว้ในบัตรภาษีเดิม หรือภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้มีชื่อในบัตรภาษีถึงแก่ความตายแล้วแต่วันใดจะเป็นวันหลัง
กรณีการโอนตามข้อ 2.2 ข้อ 2.3 และข้อ 2.4 ผู้รับโอนต้องยื่นคำร้องขอรับโอนสิทธิในบัตรภาษี
(แบบ กศก. 22/1) ที่ลงนามโดยผู้มีอำนาจกระทำการตามหนังสือจดทะเบียน
บริษัทซึ่งออกโดยกระทรวงพาณิชย์และประทับตรา (ถ้ามี) ของผู้รับโอนและผู้โอน ณ
ส่วนชดเชยค่าภาษีอากร กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายในอายุบัตรที่กำหนดไว้ในบัตรภาษีเดิม
เว้นแต่ ในกรณีที่อธิบดีกรมศุลกากรเห็นสมควรจะผ่อนผันให้ขอเปลี่ยนบัตรภาษีใหม่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่บัตรภาษีหมดอายุก็ได้
บัตรภาษีที่ออกให้ใหม่มีอายุการใช้เท่ากับบัตรภาษีเดิมและต่ออายุได้
การต่ออายุบัตรภาษี
บัตรภาษีมีอายุสามปีนับแต่วันที่ออกบัตร
หากผู้ได้รับบัตรภาษีไม่สามารถนำบัตรภาษี ไปใช้ประโยชน์ได้ภายในกำหนดเวลาดังกล่าว
สามารถยื่นขอต่ออายุได้คราวละสามปี ไม่เกินสองคราว โดยให้ยื่นคำร้องขอต่ออายุบัตรภาษี
(แบบ กศก. 24)
ณ ส่วนชดเชยค่าภาษีอากร กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
ก่อนบัตรภาษีหมดอายุ
การเปลี่ยนบัตรภาษีเดิมเป็นบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อกรมศุลกากรตรวจสอบความสมบูรณ์ถูกต้องของข้อมูลบัตรภาษีที่ปรากฏอยู่ในระบบชดเชยอากร
(Compensation)
ของผู้มีชื่อในบัตรภาษีเรียบร้อยแล้ว กรมศุลกากรจะเปลี่ยนบัตรภาษีของผู้มีชื่อในบัตรภาษีจำนวนดังกล่าวเป็นบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงกำหนดแบบ
ลักษณะ ราคา และรายละเอียดของบัตรภาษี พ.ศ. 2564 มีผลใช้บังคับ
และแจ้งให้ผู้มีชื่อในบัตรภาษีทราบ และเมื่อกรมศุลกากรได้ดำเนินการเปลี่ยนบัตรภาษีของผู้มีชื่อในบัตรภาษีเป็นบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์แล้ว
บัตรภาษีที่ออกให้ก่อนวันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ จะไม่สามารถนำไปชำระค่าภาษีอากรได้
บัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกให้ใหม่
มีราคาและอายุเพียงเท่าที่มีอยู่ในบัตรภาษีเดิม
สินค้าส่งออกที่ถูกส่งกลับคืนหรือการส่งสินค้าคืน
1.
กรณีที่สินค้าส่งออกถูกส่งกลับคืนมาและต้องคืนเงินค่าสินค้านั้นให้แก่ผู้ซื้อ
โดยที่สินค้าดังกล่าวได้ใช้สิทธิขอรับเงินชดเชยไปแล้ว
ผู้ใช้สิทธิชดเชยต้องคืนเงินชดเชยเป็นจำนวนตามส่วนของสินค้าที่มีการส่งกลับนั้น ให้กรมศุลกากรภายในหกสิบวันนับแต่วันที่นำสินค้ากลับเข้ามา
2.
ถ้าผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยมิได้คืนเงินชดเชยภายในระยะเวลาที่กำหนด
ต้องชำระเงินเพิ่มในอัตราร้อยละสองต่อเดือนของเงินชดเชยที่ต้องคืน จนกว่าจะคืนเงินชดเชยครบถ้วน
เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน
3.
การคืนเงินชดเชย ตลอดถึงกรณีจะต้องชำระเงินเพิ่ม จะชำระด้วยเงินสด
เช็ค บัตรเดบิต/เครดิต หรือบัตรภาษี หรือชำระผ่านธนาคารหรือตัวแทนรับชำระ (Bill
Payment) ก็ได้