คำตอบ :
สามารถขอชดเชยค่าภาษีอากรได้
โดยต้องเป็นสินค้าที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า
1) ผลิตในประเทศไทย
2) ไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรอื่นๆ
ดังต่อไปนี้
- การยกเว้นหรือลดหย่อนอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
-
การคืนอากรการผลิตเพื่อส่งออกตามกฎหมายศุลกากรมาตรา 29
-
การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามกฎหมายศุลกากรเรื่องคลังสินค้าทัณฑ์บน
-
การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามกฎหมายศุลกากรเรื่องเขตปลอดอากร
-
การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามกฎหมายการนิคมอุตสาหกรรมเรื่องเขตประกอบการเสรี
3) ต้องไม่เป็นสินค้าที่ห้ามไม่ให้ได้รับเงินชดเชย
ได้แก่
- แร่ ตามกฎหมายว่าด้วยแร่
-
สินค้าที่ต้องเสียอากรหรือค่าธรรมเนียมเมื่อส่งออก
- สินค้าที่คณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรฯกำหนดไม่ให้ได้รับเงินชดเชย
(สามารถตรวจสอบสินค้าที่คณะกรรมการฯกำหนดไม่ให้ได้รับเงินชดเชยได้จากประกาศคณะกรรมการฯที่
3/2527 และ 1/2535)